กลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ กลุ่ม ธ.ค.ก. ดีเด่น ระดับที่ 1/2553 สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8 อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
กิจกรรมกลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ด ตามโครงการธนาคารโค - กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ
สถานที่ตั้งกลุ่ม ศาลาบ้านนายจำเริญ ทองปรอน เลขที่ 83 หมู่ที่ 5 ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาชิกกลุ่ม ธคก.ในหมู่บ้านต่างๆ ของตำบลลีเล็ดเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อปีพ.ศ. 2551 จำนวน 78 ราย โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ด และต่อมาได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2551
ได้รับการสนับสนุนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 78 ตัว ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลลี เล็ดและสมาชิกกลุ่ม จัดพิธีไถ่ชีวิตและมอบโคให้สมาชิกกลุ่มยืมเพื่อการผลิต ตามระเบียบโครงการธนาคารโค - กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2551
ปัจจุบันนี้คงเหลือแม่โคจำนวน 77 ตัว สมาชิก 77 ราย ซึ่งโคได้ป่วยตายจำนวน 1 ตัว สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ขออนุมัติจำหน่าย และสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 8 ได้อนุมัติจำหน่ายออกจากทะเบียนแล้ว จำนวนลูกสัตว์ ธคก. ตัวที่ 1 ในกลุ่ม จำนวนลูกสัตว์ ธคก. ตัวที่ 1 ในกลุ่มมีทั้งหมด 55 ตัว และลูกโคที่มีอายุครบ 2 ปี ที่จะส่งคืน ธคก. ตามสัญญายืมมีทั้งหมด 35 ตัว ลูกโคส่วนใหญ่เป็นลูกผสมสายพันธุ์บราห์มัน มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง และขณะนี้มีแม่โคที่กำลังตั้งท้องประมาณ 30 ตัว ซึ่งจำนวน ลูกสัตว์ก็จะทยอยเกิดและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวที่ไม่เป็นสัดหรือผสมไม่ติด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ขอความร่วมมือจากศูนย์วิจัยการผสม เทียมและเทคโนโลยีชีวภาพ สุราษฎร์ธานีเข้ามาแก้ปัญหาเป็นระยะ คอกสัตว์ ความสะอาด มั่นคงแข็งแรง มีที่ให้อาหาร-น้ำ มีที่เก็บมูลสัตว์
สภาพการเลี้ยงโคของกลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ด จะเลี้ยงรวมกันเป็นกลุ่มย่อยประมาณ 5-7 คน ต่อกลุ่ม โดยจะผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล ซึ่งสภาพของคอกโคมีความมั่นคงแข็งแรง สะอาด มีรางอาหาร และรางน้ำ โดยใช้ปล่องบ่อซีเมนต์และถังพลาสติกผ่าครึ่งทำเป็นที่ใส่น้ำให้โคกิน มีการเก็บมูลโคด้านหลังคอกนำมาตากแดดให้แห้งแล้วบรรจุใส่กระสอบเพื่อนำไปใช้ ในสวนปาล์มน้ำมัน และที่เหลือก็จะขายบุคคลภายนอก บริเวณหน้า คอกจะมีป้ายชื่อเกษตรกรผู้ยืมติดไว้ทุกคอก การปลูกพืชอาหารสัตว์ และการสำรองอาหารสัตว์ การนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาเป็นอาหารสัตว์
กลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ดไม่มีปัญหาด้านการขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีหญ้าขนตามธรรมชาติขึ้นอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ สาธารณะและบริเวณรอบๆ บ่อกุ้ง เป็นพื้นที่นับ 1,000 ไร่ และสมาชิกบางรายก็ปลูกหญ้าบริเวณร่องปาล์มน้ำมัน บางรายก็มีการใช้ทางปาล์ม ใบกระถิน ต้นกล้วย มาเป็นอาหารสัตว์ในช่วงที่ได้รับผลกระทบ
โคแม่พันธุ์ที่เกษตรกรได้รับมอบเป็นโคที่มาจากหลายพื้นที่ ในระยะแรกๆ จึงมีปัญหามากในส่วนของสุขภาพและความสมบูรณ์พันธุ์ โคจะผอม ไม่ค่อยกินหญ้า ไม่เป็นสัดและผสมไม่ค่อยติด คณะกรรมการกลุ่ม จึงได้ประสานงานขอความช่วยเหลือจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอพุนพิน, สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพสุราษฎร์ธานี เพื่อเข้ามาให้คำแนะนำและแก้ปัญหาต่างๆ เช่น การเสริมอาหารข้นและอาหารแร่ธาตุแก่โคตัวที่ผอมผสมไม่ติด, การล้วงตรวจระบบสืบพันธุ์, การเหนี่ยวนำการเป็นสัด และการบริการผสมเทียม จนปัจจุบันโคแม่พันธุ์ของกลุ่มประมาณ 95 % มีสุขภาพสมบูรณ์ มีลูกเกิด และตั้งท้อง
เนื่องจากสมาชิกกลุ่มปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และเลี้ยงดูโคเป็นอย่างดี มีคอก มีน้ำสะอาด มีหญ้าสด และแร่ธาตุให้กินตลอดเวลา การถ่ายพยาธิและการป้องกันโรค สำนักงานปศุสัตว์อำเภอพุนพินร่วมกับสมาชิกกลุ่ม ดำเนินการถ่ายพยาธิและฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับโคแม่พันธุ์และลูกโคตาม กำหนด ดังนี้ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย ปีละ 2 ครั้ง ( 6 เดือนต่อครั้ง ) ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอบวม ปีละ 1 ครั้ง กำจัดพยาธิภายนอก ภายในทุกๆ 3 เดือน
การใช้ประโยชน์จากสัตว์ เช่น การใช้แรงงาน การใช้มูลสัตว์ ฯลฯ ในส่วนของมูลสัตว์ เกษตรกรจะนำมาตากแห้งแล้วบรรจุใส่กระสอบเพื่อนำไปใช้ในสวนปาล์มน้ำมัน ส่วนที่เหลือก็จะจำหน่ายให้กลุ่ม และกลุ่มจะนำมาทำปุ๋ยหมัก โดยสมาชิกกลุ่มจะมีส่วนร่วมช่วยกันทำและมีผลประโยชน์ร่วมกันจากการขายปุ๋ย หมัก ในราคากิโลกรัมละ 3 บาท การบันทึกรายละเอียดประจำตัวสัตว์ ทาง คณะกรรมการกลุ่ม โดยเลขานุการของกลุ่มจะเป็นผู้จัดทำรายละเอียดต่างๆ เช่น บัตรประจำตัวสัตว์ รายละเอียดลูกเกิดเป็นปัจจุบัน จัดเก็บเข้าแฟ้มอย่างเป็นระเบียบและสะดวกต่อการสืบค้น จำนวนลูกสัตว์ ธคก. ตัวที่ 2, 3 ในกลุ่ม ขณะ นี้มีลูกสัตว์ตัวที่ 2 ในกลุ่มทั้งหมด 12 ตัว โดยแยกเป็นเพศผู้ 8 ตัว เพศเมีย 4 ตัว ลูกโคมีสุขภาพแข็งแรงดี ส่วนใหญ่จะเป็นลูกผสมชาร์โรเลย์ที่เกิดจากการผสมเทียม
การบริหารจัดการกลุ่ม มีการการแต่งตั้งกรรมการ สมาชิก กลุ่มได้มีการประชุมและดำเนินการคัดเลือกคณะกรรมการกลุ่ม เพื่อเป็นตัวแทนของสมาชิกกลุ่มในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามโครงการธนาคารโค - กระบือเพื่อเกษตรกร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี
นายปราโมทย์ แก้วปานประธานกลุ่ม (โทร.0 – 8579- 57143)
นายจำเริญ ทองปรอน รองประธาน และ นายขจรศักดิ์ แสงรักษ์เป็นเลขานุการ ฯลฯ
กฎระเบียบข้อบังคับกลุ่มที่เอื้อต่อความสำเร็จ คณะ กรรมการกลุ่มพร้อมด้วยสมาชิกกลุ่ม ได้ร่วมกันพิจารณาถึงกฎระเบียบและข้อบังคับกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ดสามารถดำเนินการตามโครงการ ธคก. ประสบความสำเร็จ กลุ่มมีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป ดังนั้น สมาชิก กลุ่มผู้ยืมโค ต้องปฏิบัติตามสัญญายืมโค ธคก. ตลอดระยะเวลาการยืมโดยเคร่งครัด สมาชิกกลุ่มมีความซื่อสัตย์ มีความสามัคคี ให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลุ่ม สมาชิกกลุ่มส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง กลุ่มจะดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยคณะกรรมการกลุ่ม ซึ่งสมาชิกกลุ่มเห็นชอบและสมาชิกต้องปฏิบัติตามระเบียบ, ข้อบังคับ, มติ และคำสั่งของกลุ่ม สมาชิกกลุ่มต้องเข้าร่วมประชุมกลุ่มทุกครั้งตามที่คณะกรรมการกลุ่มนัดหมายและยอมรับมติส่วนใหญ่ในการประชุมกลุ่ม สมาชิกกลุ่มสามารถเข้าร่วมกองทุนออมทรัพย์ ธคก. ได้ตามความสมัครใจโดยมิได้บังคับ
การจัดตั้งกองทุนของกลุ่ม คณะกรรมการกลุ่มได้ร่วมประชุมกับสมาชิกกลุ่ม เพื่อดำเนินการจัดตั้งกองทุนของกลุ่ม โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกรู้จักออมทรัพย์และสามารถกู้เงินจากกองทุนนำไป เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับโครงการฯ เช่น ทำแปลงหญ้า, ปรับปรุงคอก, ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งที่ประชุมก็เห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนของกลุ่ม โดยใช้ชื่อว่า “กองทุนออมทรัพย์ ธคก. ตำบลลีเล็ด” และให้คณะกรรมการกลุ่มเป็นคณะกรรมการดำเนินการกองทุนออมทรัพย์ฯ ด้วย โดยสมาชิกสามารถเข้าร่วมกองทุนและถือหุ้นได้ตามความสมัครใจ มิได้บังคับแต่อย่างใด
ปัจจุบันมีเงินกองทุนทั้งหมด 32,918 บาท และในส่วนที่สมาชิกกู้ 3 ราย เป็นเงิน 13,000 บาท นอกจากนี้ในกลุ่มยังมีกองทุนคลังยาสัตว์ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกในด้านการดูแลสุขภาพสัตว์ กิจกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการเลี้ยง เช่น แปลงหญ้าสาธารณะ การใช้ประโยชน์จากคอกกลาง การสำรองพืชอาหารสัตว์ ฯลฯ
สมาชิกกลุ่มเลี้ยงโคตำบลลีเล็ดส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือ การเลี้ยงกุ้ง มีภารกิจประจำวันมากจึงมีเวลาจำกัดในการดูแลโค สมาชิกกลุ่มจึงแก้ปัญหาการเลี้ยงโดยเลี้ยงรวมกัน 5 - 7 คนต่อกลุ่ม โดยผลัดเปลี่ยนกันมาดูแลโค และเนื่องจากเกือบทุกพื้นที่ของตำบลลีเล็ดอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหญ้าขนตาม ธรรมชาติ บริเวณรอบๆ บ่อกุ้งและทุ่งหญ้าสาธารณะและบางรายก็ปลูกหญ้าเนเปียร์แคระในระหว่างร่อง ปาล์มน้ำมันจึงไม่มีปัญหาเรื่องพืชอาหารสัตว์ขาดแคลน
และกลุ่มได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลลีเล็ด จำนวน 90,000 บาท นำมาซื้ออุปกรณ์ผสมเทียมโค โดยประธานกลุ่มจะทำหน้าที่เป็นผู้บริการผสมเทียมให้แก่สมาชิก ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพต่อการผสมติดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานเกษตรอำเภอพุนพิน พร้อมวิทยากรมาสาธิตการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งต่อมากลุ่มได้ดำเนินการทำปุ๋ยหมักมาโดยตลอด เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่ม
การจัดทำรายละเอียดทะเบียนสัตว์ประจำกลุ่ม คณะ กรรมการกลุ่มโดยเฉพาะเลขานุการกลุ่ม ได้จัดทำทะเบียนสัตว์ประจำกลุ่มในส่วนของแม่พันธุ์และลูกเกิดเป็นปัจจุบันและขอความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนตำบล ลีเล็ดในส่วนของการจัดพิมพ์เอกสาร และเก็บเข้าแฟ้มสะดวกต่อการจัดหาและสืบค้น
การประชุมกลุ่ม คณะ กรรมการกลุ่มจะนัดประชุมกลุ่มทุกเดือนๆ ละครั้ง ณ ที่ทำการกลุ่มเลี้ยงโคตำบลลีเล็ด ทุกๆวันที่ 15 ของเดือน เพื่อชี้แจงการดำเนินงานของกลุ่ม เช่น สถานะกองทุนออมทรัพย์ ธคก. สมาชิกจ่ายค่าหุ้นและพิจารณาเงินกู้ให้กับสมาชิกที่ขอกู้ และแจ้งรายงานลูกเกิด รับทราบปัญหาของโคแม่พันธุ์แต่ละตัวที่ไม่มีลูกเกิด ไม่เป็นสัด ผสมไม่ติด เพื่อแก้ปัญหาต่อไป
การมีส่วนร่วมของสมาชิก การ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจและร่วมดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ ของกลุ่มเลี้ยงโคเนื้อตำบลลีเล็ด จะดำเนินการในรูปแบบของคณะกรรมการกลุ่ม โดยผ่านความเห็นชอบของสมาชิกกลุ่มในการตัดสินใจ ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายในกลุ่ม เริ่มตั้งแต่การจัดพิธีไถ่ชีวิตและมอบโคให้เกษตรกร ซึ่งสมาชิกกลุ่มร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, องค์การบริหารส่วนตำบลลีเล็ด จัดพิธีไถ่ชีวิตและมอบโคให้เกษตรกรอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ อีกทั้งการดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ในกลุ่ม เช่น การจัดตั้งกองทุนออมทรัพย์ ธคก., การทำปุ๋ยหมักเพื่อจำหน่ายเป็นรายได้ของกลุ่ม, การเลี้ยงโครวมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ กลุ่มละ 5 - 7 คน, การร่วมกันคิดแก้ไขปัญหาโคแม่พันธุ์ตัวที่มีปัญหา, การหาสมาชิกสำรองไว้เพื่อรับลูกโคตัวที่ 1 ของ ธคก. เพศเมียเมื่ออายุ 2 ปี เหล่านี้เป็นต้น
***************************************
ข้อมูล : กลุ่มโครงการพิเศษ สำนักพัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยี
เรียบเรียง : พิจารณา สามนจิตติ นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์