เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ของกรมปศุสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๖
เพื่อเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมปศุสัตว์มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลตามภารกิจ หน้าที่ และอำนาจของกรมปศุสัตว์ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรมปศุสัตว์จึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ
กรมปศุสัตว์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรมปศุสัตว์ พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ ๒ ขอบเขตการบังคับใช้
นโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับกรมปศุสัตว์ในปัจจุบันและที่อาจจะมีในอนาคตซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยกรมปศุสัตว์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลแทนหรือในนามกรมปศุสัตว์ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดยกรมปศุสัตว์
บุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับกรมปศุสัตว์ ตามวรรคแรก ให้หมายรวมถึง
(๑) ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้าง ผู้ปฏิบัติงาน
(๒) ผู้ใช้งานบริการของกรมปศุสัตว์
(๓) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมปศุสัตว์
(๔) บุคคลอื่นที่กรมปศุสัตว์ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ครอบครัวของข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ เป็นต้น
ข้อ ๓ บทนิยาม
ในประกาศนี้ ให้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์
ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย
ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมปศุสัตว์ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า กรมปศุสัตว์ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า กรมปศุสัตว์ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูล
ส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าว ไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ ๔ แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมปศุสัตว์ เก็บรวบรวม
กรมปศุสัตว์ จะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูล ดังต่อไปนี้
- เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยกรมปศุสัตว์ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับกรมปศุสัตว์ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยกรมปศุสัตว์ เป็นต้น
- เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการอื่น ๆตามสัญญาหรือตามพันธกิจของกรมปศุสัตว์ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการของ
กรมปศุสัตว์ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น - เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่กรมปศุสัตว์ เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่กรมปศุสัตว์ ในกรณีนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบ ในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของบริการนั้น ๆ ตามแต่กรณีให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่กรมปศุสัตว์
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ กรมปศุสัตว์ อาจเป็นผลให้กรมปศุสัตว์ ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
ข้อ ๕ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและบริบทการให้บริการ โดยใช้ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล |
รายละเอียด |
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย |
เพื่อให้ กรมปศุสัตว์ สามารถดำเนินการตามภารกิจหน้าที่และอำนาจตามที่มีกฎหมายกำหนด เช่น กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน พระราชบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ กฎหมายว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรม กฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่ง มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามคำสั่งศาล เป็นต้น |
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรมปศุสัตว์ และของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของกรมปศุสัตว์ หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของกรมปศุสัตว์ |
เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล |
เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การให้บริการแอปพลิเคชันเพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดตามนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น |
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อให้กรมปศุสัตว์ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาระหว่างกรมปศุสัตว์ กับคู่สัญญา เช่น สัญญาเพื่อรับทุนรัฐบาล การจ้างงาน จ้างทำของ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น |
เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจรัฐที่ |
เพื่อให้กรมปศุสัตว์ สามารถใช้อำนาจรัฐและดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะตามพันธกิจของกรมปศุสัตว์ ซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น |
เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ |
เพื่อให้กรมปศุสัตว์ สามารถจัดทำหรือสนับสนุนการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติตามที่ กรมปศุสัตว์ อาจได้รับมอบหมาย เช่น การจัดทำทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ หรือคณะกรรมการ การจัดทำสถิติการใช้บริการดิจิทัลภาครัฐ งานติดตามการดำเนินนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น |
ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กรมปศุสัตว์ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้ว เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวด้วยวัตถุประสงค์ ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นมาตรา ๒๔ หรือ ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติ |
ในกรณีที่กรมปศุสัตว์ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลข้างต้น หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้กรมปศุสัตว์ ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
ข้อ ๖ ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมปศุสัตว์ เก็บรวบรวม
กรมปศุสัตว์ อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ โดยขึ้นอยู่กับบริการหรือบริบทความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีกับกรมปศุสัตว์ รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดและตัวอย่าง |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล |
ข้อมูลระบุชื่อเรียกของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลขใบประกอบการ |
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล |
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาที่ใช้ ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น |
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ |
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์ (บ้าน ที่ทำงาน) ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา |
รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน |
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย |
รายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยผู้ปฏิบัติงาน เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม |
ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมือง การดำรงตำแหน่งกรรมการ ความสัมพันธ์กับผู้ปฏิบัติงานของกรมปศุสัตว์ ข้อมูลการเป็นผู้มีสัญญาจ้างกับกรมปศุสัตว์ ข้อมูลการเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่ทำกับกรมปศุสัตว์ เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ |
รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของกรมปศุสัตว์ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่านหมายเลข PIN |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ความพิการ ความเห็นทางการเมือง ประวัติ อาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ภาพจำลองใบหน้า, ลายนิ้วมือ) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น |
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรมปศุสัตว์ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ข้อ ๗ คุกกี้ (Cookies)
กรมปศุสัตว์ จะเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของกรมปศุสัตว์ เช่น www.dld.go.th หรือบนอุปกรณ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของกรมปศุสัตว์ และเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของสำนักงาน และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์ ให้ตรงกับความต้องการของเจ้าของข้อมูล โดยสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เชอร์ (Web Browser) ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ ๘ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ
กรณีที่กรมปศุสัตว์ ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมใน
การเก็บรวบรวม เป็นของบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ กรมปศุสัตว์ จะไม่
ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
กรณีที่กรมปศุสัตว์ ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และตรวจสอบพบในภายหลังว่ากรมปศุสัตว์ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนตามกฎหมาย หากกรมปศุสัตว์ ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นในการเก็บรวบรวมข้อมูลของบุคคลดังกล่าว กรมปศุสัตว์ จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว เว้นแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อไป
ข้อ ๙ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ ดำเนินการเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ โดยขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือกิจกรรมที่ให้บริการ ตลอดจนบริบทความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีกับกรมปศุสัตว์
(๑) เพื่อนำไปใช้งานภายใต้ภารกิจ หน้าที่และอำนาจตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมปศุสัตว์ หรือดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อดำเนินประโยชน์สาธารณะให้สำเร็จลุล่วงตามที่กรมปศุสัตว์ ได้รับมอบหมาย
(๒) เพื่อการดำเนินการตามสัญญาระหว่างกรมปศุสัตว์ กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
(๓) เพื่อการดำเนินการทางธุรกรรมของกรมปศุสัตว์
(๔) ควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกตามความมุ่งหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(๕) เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(๖) จัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
(๗) วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของกรมปศุสัตว์
(๘) เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการรับสมัครงาน การสรรหากรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ การประเมินคุณสมบัติ
(๙) ป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้งกรมปศุสัตว์ และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(๑๐) การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อมีการสมัครใช้บริการของกรมปศุสัตว์ หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
(๑๑) ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพบริการให้ทันสมัย
(๑๒) การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
(๑๓) ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(๑๔) เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
(๑๕) ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
(๑๖) ตรวจสอบการเข้าถึงและการใช้บริการของกรมปศุสัตว์ ทั้งในภาพรวมและรายบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์
(๑๗) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่กรมปศุสัตว์ มีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม หน่วยงานด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของกรมปศุสัตว์
(๑๘) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของกรมปศุสัตว์ หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการการดำเนินการของกรมปศุสัตว์
(๑๙) ป้องกัน หรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด
(๒๐) จัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การค้นคว้าหรือจัดทำสถิติที่กรมปศุสัตว์ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ
(๒๑) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรมปศุสัตว์ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ข้อ ๑๐ การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ ๙ ข้างต้น กรมปศุสัตว์ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล |
รายละเอียด |
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่ |
หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแล หรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง ศาล สำนักงานอัยการสูงสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นต้น |
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ |
กรมปศุสัตว์ อาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลแก่บุคคล |
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของ |
บุคคลภายนอกที่กรมปศุสัตว์ จัดซื้อจัดจ้าง ให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น โรงพยาบาล บริษัทผู้จัดทำ ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น |
พันธมิตรทางธุรกิจ |
กรมปศุสัตว์ อาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูล |
ผู้ให้บริการ |
กรมปศุสัตว์ อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของกรมปศุสัตว์ เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล เช่น คลาวด์ ผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น |
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น |
กรมปศุสัตว์ อาจเปิดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรมปศุสัตว์ โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของกรมปศุสัตว์ การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น |
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ |
กรมปศุสัตว์ อาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น |
ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรมปศุสัตว์ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ข้อ ๑๑ การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณีกรมปศุสัตว์ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของกรมปศุสัตว์ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนั้น เมื่อกรมปศุสัตว์ มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศปลายทาง กรมปศุสัตว์ จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
(๑) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้กรมปศุสัตว์ ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
(๒) ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
(๓) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญากับกรมปศุสัตว์ หรือเป็นการทำตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
(๔) เป็นการกระทำตามสัญญาของกรมปศุสัตว์ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(๕) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล หรือของบุคคลอื่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
(๖) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
ข้อ ๑๒ ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมและทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศ หรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว กรมปศุสัตว์ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิ หรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้น จะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
ข้อ ๑๓ การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
กรมปศุสัตว์ อาจมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของกรมปศุสัตว์ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจ
เสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็น
ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นั้น กรมปศุสัตว์ จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ระหว่างกรมปศุสัตว์ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงการกำหนดรายละเอียดประเภท ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมปศุสัตว์ มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของกรมปศุสัตว์ เท่านั้น โดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล กรมปศุสัตว์จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วงในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์ กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ ๑๔ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ จะจัดให้มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของกรมปศุสัตว์ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยกรมปศุสัตว์ มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อกรมปศุสัตว์ มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น กรมปศุสัตว์ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงาน เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
ข้อ ๑๕ การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
บริการของกรมปศุสัตว์ อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สามซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ กรมปศุสัตว์ ขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
ข้อ ๑๖ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับ และให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๑๗ สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
(๑) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมปศุสัตว์ เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่กรมปศุสัตว์ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
(๒) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
(๓) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้กรมปศุสัตว์ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
(๔) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่กรมปศุสัตว์ ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่กรมปศุสัตว์ ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้กรมปศุสัตว์ เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่กรมปศุสัตว์ กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(๕) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเอง เว้นแต่กรณีที่กรมปศุสัตว์ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น กรมปศุสัตว์ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของกรมปศุสัตว์ เป็นต้น)
(๖) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่กรมปศุสัตว์ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้น จะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับ) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรักษาโดยกรมปศุสัตว์ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้กรมปศุสัตว์ จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป หรือยังคงมีสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับกรมปศุสัตว์ ที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่
(๗) สิทธิในการขอรับ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองจากกรมปศุสัตว์ ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้กรมปศุสัตว์ ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
รายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อ ๑๘ โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง (สำหรับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของกรมปศุสัตว์) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีต่อกรมปศุสัตว์ และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้ง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๙ การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพบว่า กรมปศุสัตว์ มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว กรมปศุสัตว์ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อมายังกรมปศุสัตว์ เพื่อให้กรมปศุสัตว์ มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนในโอกาสแรก
ข้อ ๒๐ การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กรมปศุสัตว์ อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายและแนวปฏิบัตินี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ รวมถึงอาจปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยกรมปศุสัตว์ จะประกาศแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนเริ่มดำเนินการหรืออาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยตรงตามช่องทางการสื่อสารของกรมปศุสัตว์ ภายหลังการบังคับใช้นโยบายฉบับนี้ให้ถือเป็นการรับทราบข้อตกลงในนโยบายและแนวปฏิบัตินี้แล้ว
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ จะมีการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติให้เป็นปัจจุบันอย่างน้อย
ปีละ ๑ ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของกรมปศุสัตว์
ข้อ ๒๑ การติดต่อกับกรมปศุสัตว์
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรมปศุสัตว์ หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
กรมปศุสัตว์
๖๙/๑ ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๖๕๓ ๔๔๔๔ ต่อ ๒๓๓๑ Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.