เว็บไซต์กรมปศุสัตว์เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Follow us on Facebook Follow us on YouTube Follow us on Rss

A- A A+

ภาวะตลาดสินค้าปศุสัตว์ปี 2551

 

ไก่เนื้อ

                ปี 2551 เป็นที่มีความผันผวนทางการตลาดค่อนข้างสูง กล่าวคือ ในช่วงต้นปี ราคาสินค้าปศุสัตว์ที่เกษตรกรขายได้ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับสินค้าเกษตร ตัวอื่น ทั้งนี้เป็นผลจากภาวะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ต่อมาในช่วงปลายปี ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้กำลังซื้อชะลอตัว และคาดว่าในปี 2552 จะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า อาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ สถานการณ์ราคาสินค้าปศุสัตว์สำคัญมี รายละเอียดดังนี้

                1.  ไก่เนื้อ ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยในช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม ปี 2551 กิโลกรัมละ 37.32 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่าปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.19 ในขณะที่ ราคาขายปลีกไก่สดที่ใช้คำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคชุดทั่วไปของกรุงเทพมหานครปี 2551 ในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นกิโลกรัมละ 65.03 บาท เปรียบเทียบกับปี 2550 ซึ่งราคาไก่สดกิโลกรัมละ 55.12 บาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.98 โดยการปรับเพิ่มราคาเกิดจากภาวะต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุ ดิบอาหารสัตว์สำหรับการส่งออกเนื้อไก่แช่เย็นแช่แข็งของไทยในช่วงเดือน มกราคม – กันยายนของปี 2551 รวมทั้งหมด เป็น 16, 585 ตัน มูลค่า 939 ล้านบาท แสดงรายละเอียดในแต่ละพิกัดดังนี้

                  ตารางปริมาณและมูลค่าการส่งออกเนื้อไก่แช่เย็นแช่แข็งปี 2551(ม.ค.-ก.ย.)

Image

                  ส่วนการส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุก กรมศุลกากรรายงานว่า ปริมาณการส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกในช่วงเวลาเดียวกัน รวมทั้งหมดเป็น 264,354 ตัน มูลค่า 35,205 ล้านบาท รายละเอียดแต่ละพิกัด ดังนี้

                  ตารางปริมาณและมูลค่าส่งออกเนื้อไก่แปรรูปปี 2551 (ม.ค. – ก.ย.)

                  Image 

                  ประเทศไทยส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกไปยังประเทศญี่ปุ่น จำนวน 114,929 ตัน มูลค่า 14,647 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ของปริมาณส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกทั้งหมด รองลงมาคือสหราชอณาจักร ซึ่งประเทศไทยส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกปริมาณ 78,380 ตัน มูลค่า 10,982 ล้านบาท โครงสร้างตลาดส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกของไทยแสดงด้วยรูปกราฟวงกลมต่อไปนี้

                  Image

                  รูปภาพแสดงสัดส่วนปริมาณส่งออกเนื้อไก่แปรรูปของไทยปี 2551 (ม.ค. – ก.ย.)

                  กระทรวง เกษตรสหรัฐฯ รายงานสถานการณ์ไก่เนื้อของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 โดยกล่าวถึงปริมาณการนำเข้าเนื้อไก่ทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือน มกราคม – กรกฎาคมเป็น 390,918 ตัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1 โดยปริมาณการนำเข้าเนื้อไก่ปรุงสุกจากประเทศไทย เป็น 92,932 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550 ซึ่งมีปริมาณ 81,062 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในขณะที่ปริมาณนำเข้าเนื้อไก่ปรุงสุกจากประเทศจีนลดลงร้อยละ 38 เนื่องจากความต้องการบริโภคในจีนที่เพิ่มขึ้นจากการจัดงานกีฬาโอลิมปิคและ ความต้องการบริโภคทดแทนเนื้อสุกรภายในประเทศ ทำให้ประเทศจีนลดลำดับประเทศผู้ค้าเนื้อไก่ปรุงสุกในญี่ปุ่นจากเดิมอยู่ ลำดับแรก เป็นลำดับที่สองรองจากประเทศไทยในปีนี้

โดย กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
วันที่เผยแพร่ 15 ธันวาคม 2008

 

ไก่ไข่

ภาวะตลาดไข่ไก่ ปี 2551 

                ภาวะราคาไข่ไก่ทั้งระดับฟาร์มและระดับตลาดขายปลีกในปีนี้ ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยราคาไข่ไก่สดคละที่เกษตรกรขายได้ปี 2551เฉลี่ยช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม ฟองละ 2.35 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ยฟองละ 2.06 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในขณะที่ราคาไข่ไก่ขายปลีกเฉลี่ยสำหรับจัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคชุดทั่วไปใน ช่วงเวลาเดียวกัน ฟองละ 3.04 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่มีราคาฟองละ 2.62 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16

                ปริมาณการนำเข้าไข่สำหรับฟักในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2551 จำนวนรวมทั้งสิ้น 545.46 พันฟอง มูลค่า 21.78  ล้านบาท เป็นไข่ไก่สำหรับฟัก จำนวน 121.86 พันฟอง มูลค่า 4.41 ล้านบาท  และ ไข่เป็ดสำหรับฟัก ปริมาณ 423.60 พันฟอง มูลค่า 17.37 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้

                  ตารางปริมาณและมูลค่าการนำเข้าไข่สัตว์ปีกสำหรับฟักทำพันธุ์ ปี 2551(ม.ค. – ก.ย)

                 Image

                 ปริมาณการส่งออกไข่ไก่สดและไข่สัตว์ปีกทำไว้ไม่ให้เสีย ในช่วงเวลาเดียวกัน เป็น 266,018 พันฟอง มูลค่า 574.61 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นไข่ไก่สด จำนวน 264,570 พันฟอง มูลค่า 556.15 ล้านบาท ซึ่งราคาต่ำกว่าราคาขายปลีกในตลาดกทม. เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา ที่เกิดสภาวะปริมาณผลผลิตไข่มากกว่าความต้องการบริโภค จึงต้องส่งออกเพื่อรักษาตลาดภายในประเทศ ประกอบกับการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง จึงจำหน่ายในราคาที่ต่ำ รายละเอียด ดังนี้

                 Image

โดย กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
วันที่เผยแพร่ 15 ธันวาคม 2008

 

สุกร

  • สภาวะตลาดสุกรiปี 2551

               ภาวะราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยของสุกรพันธุ์ผสมมีชีวิต น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ขึ้นไป ในช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม ปี 2551 กิโลกรัมละ 53.49 บาท หลังจากปรับลดลงในปี 2550 ซึ่งมีค่าต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี เหลือกิโลกรัมละ 37.54 บาท โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาสุกรมีชีวิตในปี 2551 ปรับเพิ่มขึ้น คือ ปริมาณการเลี้ยงสุกรลดลงจากการเลิกเลี้ยงของเกษตรกรบางรายที่ไม่สามารถ แบกรับภาระหนี้สินจากต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นในปี 2550 ในขณะที่ราคาขายมิได้ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเกิดโรค ท้องร่วงติดต่อในสุกร(Porcine Epidemic Diarrhea : PED)  ที่ ทำให้ลูกสุกรเสียชีวิตในช่วงปลายปี 2550 และส่งผลต่อราคาสุกรมีชีวิตในช่วงต้นปี 2551 ทางด้านราคาขายปลีกเฉลี่ยเนื้อสุกรที่ใช้จัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคชุดทั่วไป ของกรุงเทพฯ ในปี 2551 ช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม กิโลกรัมละ 109.40 บาท และ ราคากระดูกซี่โครงหมู กิโลกรัมละ 101.75 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550 พบว่า ราคาเนื้อสุกรฯ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.96

                ปริมาณการส่งออกสุกรมีชีวิตของไทยในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2551 รวมทั้งสิ้น 337,560 ตัว มูลค่า 955.87 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกสุกรพันธุ์ รายละเอียดดังนี้

                 Image

               ปริมาณการส่งออกเนื้อสุกรสดและปรุงสุกในช่วงเวลาเดียวกัน รวมทั้งสิ้น 7,499.76 ตัน มูลค่า 1,475.87 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ส่งออกในพิกัดเนื้อสุกปรุงสุกแบบอื่น และบรรจุภาชนะที่มิใช่กระป๋อง จำนวน 3,399.60 ตัน มูลค่า 1,475.87 ล้านบาท รายละเอียดดังตารางต่อไปนี้              

Image

โดย กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
วันที่เผยแพร่ 15 ธันวาคม 2008

โคเนื้อ

  • สภาวะตลาดโคเนื้อปี 2551

              ราคาโคเนื้อขนาดกลาง (นน.350-450 กก.) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมกราคมถึง ตุลาคม พ.ศ. 2551 ตัวละ 13,255 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ราคาขายโคมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ ปรับลดลง จากตัวละ 13,255 บาท หรือลดลงร้อยละ 8 สำหรับราคาขายปลีกเฉลี่ยเนื้อโคที่ใช้จัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคชุดทั่วไป ของกรุงเทพฯ ในปี 2551 ช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม กิโลกรัมละ 140.89 บาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคากิโลกรัมละ 140.89 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.61 ในขณะที่ราคาขายปลีกเนื้อเค็มฯ ในช่วงเวลาเดียวกันกิโลกรัมละ 190.52 บาท ซึ่งลดลงจากกิโลกรัมละ 181.63 บาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2550 หรือคิดเป็นร้อยละ 4.89

               ใน ปี2551 (ม.ค.-พ.ย.) ประเทศไทยนำเข้าเนื้อโคและส่วนอื่นที่บริโภคได้แช่เย็นและแช่แข็งจากประเทศ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในปริมาณที่มากกว่าที่กำหนดมาตรการปกป้องพิเศษ(Special Safeguard) รายละเอียดการนำเข้าเนื้อโคจากประเทศออสเตรเลีย ดังนี้

                Image

                จาก ข้อมูลข้างต้น พบว่าปริมาณนำเข้าเครื่องในโคกระบือมากกว่าโควตาที่กำหนดไว้ถึงห้าเท่า ส่วนปริมาณนำเข้าเนื้อโคกระบือเกินกว่าโควตาที่กำหนดไว้ร้อยละ 2.5  ในขณะที่การนำเข้าจากนิวซีแลนด์ พบว่า การนำเข้าเครื่องในเกินกว่าที่กำหนดโควตาไว้ร้อยละ 97.50 แต่ปริมาณนำเข้าเนื้อโคกระบือยังคงต่ำกว่าที่ผูกพันไว้กับ รายละเอียดการนำเข้าจากนิวซีแลนด์มีดังนี้

               

Image

โดย กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
วันที่เผยแพร่ 15 ธันวาคม 2008

โคนม

  • สภาวะตลาดโคนมปี 2551

                ในเดือนกันยายน ปี 2551 โรงงานผู้ผลิตนมพร้อมดื่มปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบหน้าโรงงานจากกิโลกรัมละ 14.50 บาท เป็นกิโลกรัมละ 18.00 บาท ตามการประกาศปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลัง คณะรัฐมนตรีมีมติให้ปรับขึ้นราคารับซื้อน้ำนมดิบหน้าโรงงานในวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ในขณะที่ราคาน้ำนมดิบที่เกษตรกรขายได้ในเดือนตุลาคม เป็นกิโลกรัมละ 16.15 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนที่ราคากิโลกรัมละ 15.45 บาท เปรียบเทียบกับปี 2550 พบว่าราคาน้ำนมดิบในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.69 ตามภาวะราคาต้นทุนการผลิตและการปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบหน้าโรงงาน การปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำนมดิบส่งผลให้ต้นทุนการผลิตนมพร้อมดื่มเพิ่มขึ้น ดังนั้น ราคานมสดที่ใช้คำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคชุดทั่วไปของกรุงเทพมหานคร ปี 2551 ช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม  จึงปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 6.9 โดยเพิ่มขึ้นจากลิตรละ 47.52 บาท เป็นลิตรละ  50.80 บาท เช่นเดียวกับเนยแข็งที่ใช้น้ำนมดิบเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็น 89.36 บาทต่อห่อ(ขนาด 200- 250กรัม) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.84 ทั้งนี้ปริมาณเนยแข็งที่บริโภคภายในประเทศต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ตามรสนิยมการบริโภคดังนั้น จากภาวะราคาเนยแข็งในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น จึงส่งผลต่อภาวะราคาเนยแข็งภายในประเทศ

               ใน ปี 2551 (ม.ค.-ก.ย.) ประเทศไทยยังคงขาดดุลการค้าผลิตภัณฑ์นม เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมเป็น 12,160 ล้านบาท แต่ มูลค่าการส่งออกเป็น 3,228 ล้านบาท ทั้งนี้ประเภทผลิตภัณฑ์นมที่ทำการค้ามากที่สุด อยู่ในพิกัด 0402 โดยนำเข้านมผง และส่งออกเป็นนมข้นทั้งชนิดจืดและหวาน ดังปรากฏรายละเอียดข้อมูลดังนี้

              Image

โดย กลุ่มวิจัยเศรษฐกิจการปศุสัตว์ สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
วันที่เผยแพร่ 15 ธันวาคม 2008