เว็บไซต์กรมปศุสัตว์เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Follow us on Facebook Follow us on YouTube Follow us on Rss

A- A A+

กรมปศุสัตว์ใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจหาสัตว์และซากสัตว์ที่ด่านฯสุวรรณภูมิ (17/2556)

อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจหาสัตว์และซากสัตว์ที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นใจให้แก่เจ้าหน้าที่ในการขอตรวจค้นหาวัตถุสิ่งของต้องสงสัยที่ด่านฯสนามบินสุวรรณภูมิ

          นายสัตวแพทย์ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า กรมปศุสัตว์นำสุนัขสายพันธุ์บีเกิล จำนวน 4 ตัว (อัลม่อน ริชชี่ อั่งเปา ฝรั่ง) ซึ่งผ่านการฝึกหลักสูตรสุนัขดมกลิ่นที่กองกำกับการสุนัขและม้าตำรวจ กองบัญชาการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำมาใช้งานในการตรวจหาสัตว์และซากสัตว์ที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับสุนัขพันธุ์บีเกิล เป็นสุนัขที่มีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก เป็นมิตร ฉลาด แสนรู้ มีจมูกที่ไวต่อการดมกลิ่น สามารถเข้าไปตรวจค้นได้แม้กระทั่งคนที่ค่อนข้างกลัวสุนัข เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำในการการตรวจค้นหาวัตถุสิ่งของต้องสงสัยให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการลักลอบนำสัตว์และซากสัตว์ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรคระบาดสัตว์มากับสินค้าสัตว์หรือซากสัตว์ที่เข้ามาภายในประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อันจะส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสุขอนามัยของประชาชนภายในประเทศได้ สำหรับแผนในอนาคต กรมปศุสัตว์เตรียมแผนขยายการปฏิบัติงานของชุดสุนัขดมกลิ่นให้แก่ด่านกักสัตว์ระหว่างประเทศทุกแห่ง

          อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่ออีกว่า กรมปศุสัตว์ได้กำหนดให้หน่วยงานด่านกักกันสัตว์ สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ รับผิดชอบภารกิจควบคุมตรวจสอบการนำเข้า-นำออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ตามอำนาจหน้าที่ในกฏหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ ทั้งนี้ด่านกักสัตว์ระหว่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะเป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวนของอากาศยานที่มาใช้เพิ่มมากขึ้น หีบห่อสัมภาระมากขึ้น การขนส่ง เคลื่อนย้ายสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยีการขนส่งสมัยใหม่ แต่ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่มีจำกัด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจัดกำลังเข้าปฏิบัติงานโดยใช้วิธีการสืบหาข่าวการลักลอบ หรือใช้วิธีสุ่มตรวจเที่ยวบินต้องสงสัยว่าจะมีผู้โดยสารลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์ซุกซ่อนมากับกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่ากรณีของผู้โดยสารขาเข้าจะต้องเน้นการตรวจหาซากสัตว์จำพวกเนื้อสัตว์ หรือซากสัตว์อื่นๆเป็นหลัก ส่วนกรณีของผู้โดยสารขาออกนั้นจะต้องเน้นไปที่การตรวจหาสัตว์ป่ามีชีวิต เช่น นก เสือ งู เต่า ฯลฯ ซากสัตว์ป่า เช่น งาช้าง กระดูกสัตว์ หนังสัตว์ อุ้งเท้า เครื่องในสัตว์ตากแห้ง ที่มักมีการลักลอบส่งออกไปต่างประเทศเพื่อปรุงเป็นยาแผนโบราณ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบตารางเที่ยวบินที่ต้องสงสัยจากท่าอากาศยานและจัดกำลังเข้าปฏิบัติงานเมื่อเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมาถึงหรืออยู่ในช่วงกำลังลำเลียงกระเป๋าขึ้นอากาศยาน หากชุดปฏิบัติงานสุนัขดมกลิ่นตรวจสอบพบสิ่งผิดกฏหมายจะแจ้งให้สัตวแพทย์ประจำด่านกักสัตว์สุวรรณภูมิทราบทันที เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ของสายการบินให้เชิญเจ้าของสัมภาระมาพบเจ้าหน้าที่ หากเป็นกรณีที่ของกลางนั้นเกี่ยวข้องหรืออยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นสัตวแพทย์จะติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานนั้นๆ เพื่อมาร่วมตรวจสอบสิ่งของสัมภาระรวมทั้งการแจ้งข้อกล่าวหาด้วย                

         ทั้งนี้ ในอนาคตกรมปศุสัตว์จะขยายการปฏิบัติงานชุดสุนัขดมกลิ่นไปเสริมการปฏิบัติงานของด่านกักสัตว์ระหว่างประเทศทุกแห่ง ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตรวจสอบป้องกันการลักลอบนำสัตว์และซากสัตว์เข้ามาภายในประเทศได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันการนำสัตว์หรือซากสัตว์ที่ไม่ผ่านการตรวจสุขภาพหรือสุขอนามัยจากสัตวแพทย์ ซึ่งอาจเป็นพาหะในการนำโรคระบาดเข้ามาทำความเสียหายแก่เศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชนภายในประเทศได้

                                                                                   ……………...................………………

ข้อมูล : สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์
เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ : น้องนุช   สาสะกุล นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ กรมปศุสัตว์