ปัจจุบันเกือบทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความต้องการโคเนื้อและกระบือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ขณะที่การผลิตโคเนื้อและกระบือของแต่ละประเทศยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ต้องอาศัยการนำเข้าเป็นหลัก ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพในการผลิตโคเนื้อและกระบือ แต่เนื่องจากปัญหาความผันผวนด้านราคาที่ไม่แน่นอน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำการเกษตรโดยใช้เครื่องจักรกลแทนการใช้แรงงานกระบือไถนา เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อและกระบือจึงเปลี่ยนอาชีพโดยนำพื้นที่จัดทำแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ไปปลูกพืชเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกันราคาผลผลิตแทน ทำให้ขาดพื้นที่เลี้ยงโคเนื้อ กระบือ ประกอบกับเกษตรกรขาดแรงจูงใจจึงเลิกเลี้ยงโค กระบือ และขายโค-กระบือทิ้ง ทำให้แม่พันธุ์โคเนื้อ กระบือถูกทำลายและลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ จากสถิติกรมปศุสัตว์เมื่อปี ๒๕๕๐ พบว่า โคเนื้อเพศเมียวัยเจริญพันธุ์ที่ให้ลูกได้ จำนวน ๓.๒๕ ล้านตัว เหลือเพียง ๑.๕๙ ล้านตัวในปี ๒๕๕๔ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ ๓๓,๒๐๐ ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรหันกลับมาเลี้ยงโค กระบือเพิ่มมากขึ้น สามารถผลิตโคเนื้อที่มีคุณภาพตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาด AEC กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์กรต่างๆ กำหนดจัดงานโคเนื้อและกระบือแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๖ ในหัวข้อ“โค – กระบือไทยก้าวไกลสู่อาเซียน” ขึ้น ระหว่างวันที่ ๒๕ มกราคม – ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐น. ณ อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดโค-กระบือชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมโล่และรางวัลเงินสด การประกวดและแข่งขันภูมิปัญญาไทย การจัดแสดงนิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวข้องกับด้านปศุสัตว์ คุณค่าโคกระบือไทยต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม การลดโลกร้อนด้วยก๊าซชีวภาพ และการแสดงพันธุ์สัตว์ชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร และสินค้า OTOP ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เลือกซื้ออีกด้วย จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจเที่ยวชมงานโคเนื้อและกระบือแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๗ ระหว่างวันที่ ๒๕ มกราคม – ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
................................................
ผู้สนใจสามารถขอรับบทความได้ที่ ส่วนการประชาสัมพันธ์ สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ ถนนพระราม ๖ เขตพญาไท กรุงเทพ ๑๐๔๐๐ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๒-๖๑๘-๒๓๒๓ ต่อ ๑๖๒๖-๒๗
เขียนโดย : ชัชพร ศฤงคารจินดา
ส่วนการประชาสัมพันธ์ สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์