เว็บไซต์กรมปศุสัตว์เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Follow us on Facebook Follow us on YouTube Follow us on Rss

A- A A+

สุนัขพันธุ์ดุร้าย .......คิดให้ดี.....ก่อนเลี้ยง (บทความ4/2555)

          ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์เรื่องสุนัขพันธุ์พิทบูลเทอเรียกัดเจ้าของเสียชีวิต เป็นข่าวเด่น หน้าหนึ่งเมื่อหลายวันที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ใช่ข่าวแรก แต่ก็คงจะไม่ใช่ข่าวสุดท้าย เพราะมันเกิดขึ้นมาแล้วในหลายต่อหลายครั้ง ตราบใดที่คนยังอยากเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุร้ายนี้อยู่ เรามาทำความรู้จักกับพวกเค้ากันสักหน่อยดีกว่า

           พิทบูล เทอเรีย  บูลเทอเรีย  สเตฟฟอร์ดเชอร์บูลเทอเรีย  รอท ไวเลอร์  และฟิล่าบราเซิลเรียโรเป็น 5 สุนัขพันธุ์ดุร้าย รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคน  หรือพยายามทำร้ายคน เป็นสุนัขที่กรุงเทพมหานคร กำหนดไว้ตามข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานครว่า เป็นสุนัขควบคุมพิเศษตามข้อบัญญัติการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 โดย ซึ่ง เจ้าของต้องเลี้ยงสุนัขเฉพาะในบ้าน ควบคุมสุนัขมิให้ออกนอกสถานที่เลี้ยงโดยปราศจากการควบคุม การนำสุนัขควบคุมพิเศษเหล่านี้ออกนอกสถานที่เลี้ยง ต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ต้องผูกสายลากจูงที่แข็งแรง ต้องจับสายลากจูงห่างจากตัวสุนัขไม่เกิน 50 ซม. ตลอดเวลา ห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี  หรือเกินกว่า 65 ปี นำสุนัขควบคุมพิเศษออกนอกสถานที่เลี้ยงโดยปราศจากเครื่องควบคุมที่มั่นคง แข็งแรงพอที่จะป้องกันมิให้เข้าถึงบุคคลภายนอก   

          อเมริกัน พิตบูลเทอเรีย  เป็นสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขล่าสัตว์โดยตรง  ซึ่งมนุษย์ใช้ประโยชน์เป็นสุนัขเฝ้ายามและระวังภัย  รูปร่างจะสันทัด  เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ และสายตาที่จ้องเขม็งไม่กลัวใคร  สุนัขพันธุ์นี้ตายยาก  ไม่ว่าจากโรคภัยหรือการบาดเจ็บ  สัญชาตญาณเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้าย  เพราะเป็นสุนัขที่ถูกปรับปรุงสายพันธุ์ เพื่อมีวัตถุประสงค์ในการต่อสู้ ล่าสัตว์หรือเฝ้ายาม ส่วนนิสัยจะดุร้ายช้าหรือเร็ว  หรือดุมากน้อยเพียงใด  ขึ้นอยู่กับการดูแลของเจ้าของว่ามีความรู้ในสายพันธุ์และ  มีความดูแลเอาใจใส่สุนัขตัวนั้นมากน้อยเพียงใด   ซึ่งหากผู้เลี้ยงเลี้ยงโดยไม่เข้าใจในธรรมชาติของตัวสุนัข  จะทำให้สุนัขเกิดความเครียดและแสดงนิสัยดุร้าย  จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้   

          ฟิ ล่า บราเซิลเรียโร สุนัขล่าเนื้อจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงตามบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ดุที่สุดในโลก โดยมีสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็นสุนัขพื้นเมืองของบราซิล ที่เลี้ยงในไร่ขนาดใหญ่เพื่อขับไล่เสือหรือหมี ฟิล่าถูกพัฒนาขึ้นมาให้เป็นสุนัขใช้งานขนาดใหญ่และแข็งแรง เพื่อตอบ สนองความต้องการของพวกฝรั่งนักล่าอาณานิคมในประเทศบราซิล ฟิล่ากลุ่มแรกที่ถูกบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์ปีค.ศ.1671 และยังไม่มีใครรู้ต้นตอที่แท้จริงของฟิล่าเหล่านี้ อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่มีการตกลงกันว่า สุนัขสายพันธุ์ฟิล่า บราซิลเลียโร่ เป็นผลมาจากการผสม 3 สายพันธุ์พื้นฐานได้แก่ โอลด์อิงลิช บลูด๊อก (Ancient Bulldog) มาสทีฟ (Mastifsfs) และ บลัดฮาวน์(Bloodhounds) กล่าวกันว่า ฟิ ล่าไม่ใช่สุนัขสำหรับคนทั่วไป เพราะเจ้าของที่จะสามารถดูแลฟิล่าได้ต้องมีความพร้อมจริงๆทั้งเรื่องค่าใช้ จ่าย เวลาว่าง รวมถึงลักษณะนิสัยส่วยตัวของผู้เลี้ยงเองด้วย  ฟิ ล่าเป็นสุนัขตัวโตพละกำลังมาก แต่ว่าปราดเปรียวว่องใว ผู้เลี้ยงต้องเป็นคนแข็งแรงพอสมควรจะได้คุมฟิล่าอยู่เวลาจูง โดยเฉพาะฟิล่าเพศผู้ ไม่แนะนำให้คนแก่หรือเด็กดูแล โดยลำพังในขณะที่ปล่อยให้มันวิ่งเล่น เพราะบางครั้ง อาจจะดึงเชือกหรือควบคุมไม่อยู่เวลาที่ฟิล่าเห็นคนแปลกหน้า   

          ร็อทไวเลอร์  ขึ้น หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ เพราะข่าวการทำร้ายคนจนบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิตอยู่บ่อยๆ ทำให้ สุนัข ร็อทไวเลอร์ ถูกสังคมพิพากษาว่าเป็น สุนัข พันธุ์ดุที่ไม่น่าพิสมัย และไม่ควรเลี้ยงไว้ในบ้านเอาเสียเลย  สุนัข ขนาดใหญ่สายพันธุ์นี้ เคยถูกเลี้ยงไว้ใช้งานในการคุ้มกันกองคาราวานสินค้า ในประเทศแถบยุโรป ครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จจากงาน เจ้าของกองคาราวานสินค้าได้นำสุนัขเข้ามาพักผ่อนในเมือง ปรากฏว่า ชายขี้เมาคนหนึ่งพยายามเข้ามาทำร้ายเจ้าของ สุนัข "ร็อตไว เลอร์" จึงเข้าปกป้อง เมื่อหลายคนเห็นว่าสุนัขพันธุ์นี้มีทั้งพละกำลัง และความดุร้ายหวงแหนเจ้าของ จึงนำมาเพาะเลี้ยงใช้งานลักษณะนี้มาถึงปัจจุบัน เป็นสุนัขอารักขาที่น่าเกรงขาม เมื่อถูกฝึกให้ต่อสู้และโจมตี ก็จะทำอันตรายให้แก่ผู้บุกรุก แม้จะฝึกได้ไม่ยาก แต่ต้องมีเจ้านายที่มีวินัยเพื่อทำให้มันเคารพและเชื่อถือ ด้วยความเชื่อมั่นในพละกำลัง โดยธรรมชาติมันจะไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับภยันตรายที่จะเกิดขึ้น จะแสดงออกถึงความโดดเดี่ยวโดยธรรมชาติ แต่จะไม่เป็นดังกล่าวกับเจ้านายหรือผู้คนในครอบครัว

          สแตฟเฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรีย มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ต้น ค.ศ. 1800 เป็น พันธุ์ผสมระหว่างบูลด็อกในปัจจุบัน และโอลด์ อิงลิช เทอร์เรีย ซึ่งตอนนี้สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความยาวของศีรษะให้มากกว่าพันธุ์บูลด็อก และรวมความแข็งแรงและว่องไวของทั้ง 2 พันธุ์ไว้ด้วยกัน ในช่วงแรกสุนัขพันธุ์นี้ จะไม่ได้รับใบเพดดิกรี เนื่องจากพวกเขาถูกใช้ในเกม "การพนันกัดสุนัข" หลังจากนั้น คนงานขุดเหมืองแร่และช่างตีเหล็กเริ่มฝึกสุนัข เพื่อให้เกมการแข่งขันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้สุนัขถูกพัฒนาความฉลาดและความซื่อสัตย์ตามไปด้วย    

           บูลเทอร์เรีย เป็นสุนัขในกลุ่ม (Terrier Group) คือ หนึ่งในสุนัขประเภทเทอร์เรีย 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการกัดสุนัข เกิดจากการผสมข้าม พันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์ BULLDOG, WHITE ENGLISH TERRIER และ SPANISH POINTER สุนัขพันธุ์ BULL TERRIER เป็นสุนัขที่ แข็งแรง ในสมัยก่อนนิยมใช้ในกีฬากัดสุนัข สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่มีหน้าตาแปลกพันธุ์หนึ่ง เป็น นักสู้ที่ใจถึง เป็นสุนัขอารักขาที่กระฉับกระเฉง รักครอบครัวและอาณาเขตของของตัวเองโดยสัญชาติญาณ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีเนื้อที่จำกัด จะนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อช่วยอารักขา เนื่องจากเป็นสุนัขอารักขาที่ดี บางครั้งอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ก็เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ควรมีการฝึกปรือตั้งแต่วันแรกๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะเลี้ยงรวมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น โดยธรรมชาติแล้วจะก้าวร้าวกับสุนัขที่ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น   

           จากการสุนัขดังกล่าวเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้ายและอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน  หากผู้เลี้ยงไม่สามารถ ควบคุมสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวได้  กรมปศุสัตว์จึงมีคำสั่งระงับการนำเข้าสุนัขพันธุ์พิตบูลเทอเรีย  ไว้เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่  27 พฤษภาคม  2534  และยังมีคำสั่งชะลอการนำเข้าสุนัขพันธุ์ American Staffordshire Terrier และ American Stsffordshire Bull Terrier เมื่อ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2545 ซึ่งสุนัขทั้ง 2 สายพันธุ์ต่างก็เป็นสุนัขดุร้ายที่อาจเป็นอันตรายแก่ประชาชนได้เหมือนกัน  ปัจจุบันมีเพียงสุนัขที่เกิดภายในประเทศ และเป็นสุนัขที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนจากสมาคมใดๆ ในประเทศไทย หรือแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา    

          เมื่อรู้แล้วว่า สุนัขพันธุ์อเมริกัน พิตบูลเทอเรียเป็นสุนัขที่พัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อต่อสู้ ล่าสัตว์หรือเฝ้ายามโดยเฉพาะ  แต่ยังคิดจะเลี้ยง คุณต้องศึกษาและเข้าใจในธรรมชาติ  ความเป็นอยู่ของสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นอย่างดี และจะต้องเลี้ยงดูให้ถูกต้องตามหลักสายพันธุ์  หากปฏิบัติได้แล้วเราก็จะได้สุนัขที่มีลักษณะนิสัยตามที่ต้องการและไม่เป็น อันตรายแก่ผู้อื่น      

           นอก จากสุนัขพันธุ์ต่างประเทศแล้ว สุนัขไทยก็ไม่น้อยหน้า สุนัขพันธุ์ไทยแท้อย่างบางแก้วที่ตัวเล็กกว่าพันธุ์อื่นๆ ที่กล่าวมาแล้ว ก็เป็นสุนัขก็ขึ้นชื่อว่าสวย มีลักษณะเด่นเฉพาะ และดุที่สุด เคยมีข่าวกัดคนตายเหมือนกัน   

          แหล่งกำเนิดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่วัดบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด เพราะพื้นที่ในเขตตำบลท่านางงาม ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าที่มีสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งสุนัขจิ้งจอกและหมาในอาศัย อยู่เป็นจำนวนมาก สุนัขจิ้งจอกและหมาในตัวผู้ซึ่งเป็นสุนัขที่ดุ อาจจะเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมียที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้ว ซึ่งเรื่องนี้ เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่ง[ได้ตรวจโครโมโซมของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว แล้วพบว่ามีโครโมโซมของสุนัขจิ้งจอกปะปนในโครโมโซมของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ซึ่งเป็นการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วสืบเชื้อสายจาก สุนัขลูกผสมระหว่างสุนัขบ้านกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วจึงมีลักษณะดีเด่น คือ มีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้น หางเป็นพวงสวยงามมีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงโต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง และมีความสวยงาม ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ   

      ถ้ายังอยากเลี้ยง หรือเลี้ยงสุนัขดุ แล้วปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ ปล่อยให้สุนัขออกไปนอกบ้านตามลำพัง โดยไม่มีคนควบคุม สุนัขอาจไปทำอันตรายคน และทรัพย์สิน เช่นกัดคน  จะมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ทางแพ่งเจ้าของจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย เช่น ค่ารักษา พยาบาลบาดแผล  ค่าวัคซีนและซีรั่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า  ค่าวัคซีนป้องกันบาดทะยัก  เป็นต้น  ถ้าผู้ถูกกัดเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า  อาจต้องเสียค่าปลงศพรวมไปถึงค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรให้แก่ฝ่ายที่เสียหาย นอกจากนั้นผู้เสียหายสามารถเรียก ค่าเสียหายได้ทุกกรณีตามความเป็นจริง  นอกจากนั้นยังเรียกค่าทำขวัญได้ด้วย  ทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน  ปรับไม่เกิน  1,000  บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้ง ไม่ว่าสุนัขจะอึ หรือฉี่ หรือทำลายข้าวของในที่สาธารณะ เจ้าของมีความผิด โทษปรับ  300 - 3,000 บาท  

           ถ้าคุณยังยืนยันอยากเลี้ยงให้ได้ คุณต้องมั่นใจว่าทุกคนในบ้านต้อง “เอาอยู่” อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้เลี้ยงสุนัขเหล่านี้ ถ้ามีคนแก่หรือเด็กอยู่ในบ้าน เพราะบางครั้งแค่เค้าเล่นด้วยก็อาจจะชนหกล้มได้ 

           กฎหมายก็แค่กฎหมาย ถ้าคุณไม่แคร์ที่จะจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินก้อนใหญ่ อาจต้องติดคุก หรือต้องเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ก็ขอให้นึกถึงชีวิตของคุณเอง หรือคนที่คุณรัก

           คิดให้ดีก่อนเลี้ยงนะคะ  

                                  ………………………………………………………..                           

ข้อมูล/บทความ โดย สัตวแพทย์หญิงปราณี พาณิชย์พงษ์  นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมปศุสัตว์  

เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ โดย น้องนุช  สาสะกุล  นักวิชาการเผยแพร่ชำนาญการ กรมปศุสัตว์