วันนี้ (วันพุธที่ 25 เมษายน 2555) นายสัตวแพทย์ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมคณะกรรมการพัฒนาปศุสัตว์ไทย –ลาว ครั้งที่ 9 ณ โรงแรมสุริวงศ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การประชุมร่วมคณะกรรมการพัฒนาปศุสัตว์ ไทย – ลาวครั้งที่ 9 ได้จัดขึ้นตามมติผลการประชุมร่วมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 8 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 29 พฤษภาคม 2552 ซึ่งครั้งนั้น กรมเลี้ยงสัตว์และการประมง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นเจ้าภาพ ณ เมืองหลวงพระบางซึ่งกรมเลี้ยงสัตว์และการประมงได้จัดต้อนรับและจัดการประชุมได้เป็นอย่างดี
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้ยังคงยึดวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพสัตว์และการผลิตสัตว์ระหว่างไทย และสาธารณรัฐประชาชนลาวอย่างใกล้ชิด ในส่วนของการพัฒนาสุขภาพสัตว์จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลโรคระบาดสัตว์ระหว่างกัน มีการรับรองให้ดำเนินการในการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของด่านกักกันสัตว์ระหว่างทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม มีการหารือในเรื่องหลักสูตร และความช่วยเหลือทางวิชาการซึ่งกันและกัน เช่น การศึกษาปัจจัยเสี่ยงโรคระบาดสัตว์ตามแนวชายแดน การสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าตามแนวชายแดนไทย – สปป.ลาว ในเรื่องของการผลิตสัตว์จะมีการหารือตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร ห้วยซ้อน – ห้วยซั้ว ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนากับมหาวิทยาลัยจำปาสัก การสนับสนุนการเลี้ยงแพะ การส่งเสริมและพัฒนาโคเนื้อการสนับสนุนน้ำเชื้อแช่แข็งสายพันธุ์บราห์มันแดง และ การพัฒนากระบือพันธุ์ดีประจำหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อเรื่องการพัฒนาสุขภาพสัตว์ของทั้งสองประเทศ จะช่วยกันพัฒนาความสามารถในการป้องกันการระบาดของโรคระบาดสัตว์จากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้ การฝึกอบรมการควบคุมโรคและการเคลื่อนย้ายสัตว์ที่ถูกต้อง ช่วยลดปัญหาการเกิดโรคระบาดที่มีสาเหตุมาจากการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ตามแนวชายแดน สำหรับการผลิตสัตว์และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ถือได้ว่ามีความสำคัญเช่นเดียวกันซึ่งจะส่งผลต่อเกษตรกรและภาคเอกชนในการพัฒนาผลผลิตของสัตว์ให้มีคุณภาพเป็นที่น่าเชื่อถือ และการที่ทั้งประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจะต้องเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้
ในส่วนของการทัศนศึกษานั้น กรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมให้ผู้แทนฝ่าย สปป.ลาว เข้าเยี่ยมชมฟาร์มไก่พันธุ์ประดู่-หางดำ ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบครบวงจร การเลี้ยงไก่แบบหลังบ้าน และการเลี้ยงแพะ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้แทนฝ่าย สปป.ลาวจะได้ประโยชน์จากการเยี่ยมชม และจะสามารถนำไปปรับใช้ที่ สปป.ลาวตามความเหมาะสม ต่อไป อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวในที่สุด
******************************************
ข้อมูล : กองปศุสัตว์ต่างประเทศ ข่าว : เพ็ญศิริ ดวงอุดม สำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์